สลับยาง : ทุก 10,000 กม. หรือ 6 เดือน
ยางรถยนต์จะเกิดการสึกหรอไม่เท่ากันทุกเส้นโดยเฉพาะในตำแหน่งล้อหน้าจะเกิดการการสึกหรอผิดปกติของดอกยางง่ายที่สุด
การสลับยางหมายถึงการเปลี่ยนให้ยางไปอยู่ตำแหน่งอื่นๆแทนที่จะอยู่ตำแหน่งเดิม
การสลับแต่ละครั้งจะทำให้เกิดการเสื่อมของดอกยางแบบสม่ำเสมอกันโดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้สลับยางทุกๆ 6 เดือนหรือทุก10,000 กม.
แล้วแต่ว่า อะไรมาถึงก่อน เพื่อให้ยางมีอายุการใช้งานได้นาน ตำแหน่งการสลับยาง ขึ้นอยู่กับการใช้งานของรถยนต์ เช่น รถขับเคลื่อน 4 ล้อ, การใช้ดอกยางแบบทิศทางเดียว
ถ่วงล้อ : ทุก 10,000 กม. หรือ 6 เดือน
ต้องถ่วงล้อ ทุกครั้ง เมื่อถอดยาง การถ่วงล้อ (Wheel Balancing) คือ การทำให้ล้อหมุนได้สมดุล ไม่สั่น โดยต้องถ่วงล้อในทุกครั้งที่เปลี่ยนยาง, ถอดยางหรือใส่ยางเพราะเมื่อใช้งานไปแล้ว ตะกั่วที่ใช้ถ่วงล้อ อาจเคลื่อนย้ายหรือหลุดออกไป
ตั้งศูนย์ล้อ (Wheel Alignment) : ทุก 20,000 กม. หรือ เมื่อมีอาการ
คือ การปรับตั้งมุม ให้รถวิ่งตรง จะเกี่ยวข้องกับเรื่องมุม-องศา ของล้อ (Wheel)ซึ่งจะทำให้ขับเคลื่อนไป ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรตรวจเช็กศูนย์ล้อทุก 20,000 กม.และ ทุกครั้งที่รถยนต์มีอาการผิดปกติ เช่น เมื่อพวงมาลัยเอียงไปทางใดทางหนึ่ง, เมื่อสังเกตพบว่ายางสึกผิดปกติ,เมื่อยางรถยนต์กระแทกกับวัตถุที่มีพื้นผิวแข็ง เช่น ขอบถนน บาทวิถี หลุมบ่อบนท้องถนน เป็นต้นตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์ : ทุก 20,000 กม. หรือ เมื่อมีอาการ
ยางรถยนต์ มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 2ปี หรือ 50,000กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคน
ถ้ายางรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้จึงควรพิจารณาเปลี่ยนเมื่อพบว่า
– เนื้อยางแข็ง ใช้เล็บจิกไม่ลง จิกแล้วเป็นรอยเล็บ หรือมีสภาพยางแตกลายงาปรากฏที่เนื้อยาง
– ดอกยางเริ่มโล้น เมื่อดอกยางเหลือไม่ถึง 2 มิลลิเมตร เมื่อวัดจากสะพานยางก็เป็นสภาพเบื้องต้น ที่พบว่ายางรถยนต์เริ่มสึกหรอมาก อาจทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานยางลดน้อยลง